โปรแกรมมวย ศึกจิตรเมืองนนท์ 1 พ.ย. 2568 | ชั่งจริงละเอียด วิเคราะห์จุดชี้ขาดครบทุกคู่ เริ่ม 16:30 น.

ตารางประกบคู่รวม & ชั่งจริง (Fight Card & Weigh-in Overview)

จากภาพรวม Fight Card จะเห็นว่ารายการวันนี้มีความหลากหลายทั้งด้านพิกัดและสถานะน้ำหนัก นักชกที่ชั่ง “ขาด” มักได้เปรียบเชิงความคล่องและจังหวะสอง ส่วนผู้ที่ “เกินแล้วลดน้ำ” จะหนาแน่นและมีแรงปะทะที่เด่นเมื่อเข้าวงใน แต่ต้องระวังอาการล้าในช่วงท้ายยก หากการรีไฮเดรตไม่สมบูรณ์พอ การอ่านเกมจึงควรจับตาคุณภาพช็อตที่มีผลจริง การคุมพื้นที่กลางเวที การคืนการ์ดที่มีวินัย และภาพจำช่วงปิดยกซึ่งส่งผลต่อคะแนนอย่างชัดเจนในสายตากรรมการ

หลักการให้คะแนนที่ควรรู้สำหรับผู้ชม

การให้คะแนนในมวยไทยยุคปัจจุบันให้น้ำหนักกับ Effective Strikes หรืออาวุธที่ “มีผลจริง” ต่อคู่ต่อสู้ เช่น ทำให้หยุดชั่วขณะ เสียสมดุล หรือถูกบังคับถอยโดยไม่คืนงาน ควบคู่กับการคุมพื้นที่หรือ Ring Generalship ที่สะท้อนว่าฝ่ายใดเป็นผู้กำหนดจังหวะของเกม นอกจากนี้ยังดูวินัยเกมรับ เช่น การ์ด การบังและการหลบ รวมถึงภาพปิดยกที่ชัดเจน แม้จำนวนอาวุธจะมากกว่า แต่หากไม่เข้าเป้าสะอาดหรือไม่สร้างผลจริง คะแนนก็อาจไม่ขยับเข้าหาเท่าที่คิด

วิเคราะห์เชิงความหมาย: น้ำหนักชั่งจริงกับผลในเกมจริง

ตัวเลขชั่งจริง “ขาด–เกิน–เท่า” เป็นเบาะแสสำคัญที่ช่วยคาดการณ์แนวทางแทคติก นักชกที่ขาดเล็กน้อยมักมีสปีดและการเปลี่ยนเลนที่ไว เหมาะกับการฉีกมุมและสวนคมโดยไม่ยืดตัว ในขณะที่นักชกที่เกินแล้วต้องลดน้ำมักมีมวลกล้ามแน่นและแรงชนดีในระยะประชิด แต่ต้องระวังคุมเพซไม่ให้เร่งเกินจำเป็นจนการ์ดตกช่วงปลาย การใช้เตะยาวหยุดเกม ศอกสั้นในจังหวะยืดตัว และการรีเซ็ตตำแหน่งหลังคอมโบคือกุญแจที่จะย้ำภาพเหนือกว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พรีวิวรายคู่ (Tactical Keys + ตารางรายคู่)

คู่ที่ 1 – พิกัด 102 ปอนด์: ศิษย์เอก ว.เทคโนหลวงปู่สรวง (แดง) vs เพชรมั่งมี ปายท่าช้าง (น้ำเงิน)

ไฟท์เปิดหัวเป็นการเจอกันระหว่างนักชกที่มีความคล่องจัดกับผู้ที่มีแรงชนหนาแน่นกว่าเล็กน้อยจากการต้องลดน้ำ น้ำเงินเพชรมั่งมีแม้เกิน 0.4 ปอนด์และต้องรีดลง แต่จะได้ความหนาในวงในและยืนปะทะได้มั่นคง ฝั่งศิษย์เอกเท่าพิกัดจึงควรใช้ข้อได้เปรียบด้านจังหวะสอง ฉีกมุมสั้น ๆ และไม่ยืดตัวหลังออกชุดยาว เพื่อปิดช่องให้โดนศอกย้อนหรือถูกกดเข้าสายเชือกจนเสียจังหวะ

กุญแจสำคัญอยู่ที่การคุมพื้นที่กลางเวทีและการรีเซ็ตตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง แดงควรใช้แย็บและเตะยาวบังคับทางเดินให้คู่ต่อสู้เคลื่อนในทิศที่อ่านได้ วางหมัดหนึ่ง–สองแล้วออกข้างทันทีเพื่อลดโอกาสโดนสวน ขณะที่น้ำเงินต้องเดินค้ำเป็นชั้นไม่พุ่งตรงเกินไป รักษาการ์ดแน่นแล้วค่อย ๆ ปิดระยะด้วยเข่าตรงและศอกสั้น หากใครทำให้คู่ต่อสู้หยุดหรือเสียสมดุลชัดเจนในช่วงสิบวินาทีท้ายยก ภาพคะแนนจะโน้มไปทางนั้นทันที

จังหวะอันตรายของแดงคือช่วงถอยเส้นตรง หากปล่อยให้ถูกบีบติดมุมแล้วไม่คืนงาน โอกาสเสียแต้มต่อเนื่องจะสูงมาก ส่วนของน้ำเงินต้องไม่หลงกับแรงชนจนเปิดไหล่หลังคอมโบ เพราะแดงพร้อมสวนคมที่ปลายหมัดอยู่เสมอ ไฟท์นี้จึงวัดกันที่คุณภาพช็อตและความนิ่งในการตัดสินใจ มากกว่าปริมาณการออกอาวุธเพียงอย่างเดียวอย่างชัดเจน

คู่ที่ 2 – พิกัด 143 ปอนด์: เพชรดำ ช.โค้วยูฮะอีซูซุ (แดง) vs มะห์ดี ธนเดอร์มวยไทยยิม (น้ำเงิน)

พิกัดใหญ่ขึ้นทำให้แรงปะทะเป็นประเด็นสำคัญ แดงเพชรดำเกินเล็กน้อยและต้องลดน้ำ น่าจะได้ความหนาในวงในและความแม่นยำเมื่อบวกสั้น ๆ หากยืนระยะถูกจังหวะ ส่วนมะห์ดีที่เท่าพิกัดจะมีสมดุลเกมรุก–รับที่ดีและสามารถรีเซ็ตตำแหน่งได้เร็ว จึงควรเล่นเป็นชั้น ใช้แย็บกวนจังหวะแล้วสอดเตะลำตัวเพื่อชะลอการเดินค้ำ ก่อนค่อยเลือกซัดแลกในมุมที่ปลอดภัย

ช่วงหัวใจของไฟท์นี้อยู่ที่การแลกสั้นคุณภาพและไม่ปล่อยตัวเองให้ยืดเกินจำเป็น หลังออกคอมโบทุกครั้งทั้งสองฝั่งต้องคืนการ์ดและขยับเท้าหนึ่งสเต็ปเพื่อทำมุมใหม่ ลดโอกาสโดนสวนจากหมัดตรงหรือศอกเฉียง การปิดยกด้วยช็อตเดียวที่ทำให้คู่ต่อสู้หยุดหรือถอยโดยไม่คืนงานจะมีน้ำหนักต่อคะแนนมาก แม้จำนวนการออกอาวุธจะไม่สูงแต่หากมีผลจริงก็เพียงพอจะขยับคะแนนนำได้

หากเพชรดำเดินมากเกินไปจนการ์ดตก มะห์ดีจะมีช่องสอดสวนคมทันที ในทางกลับกัน หากมะห์ดีถอยเป็นเส้นตรงบ่อยครั้งโดยไม่รีเซ็ตมุม เพชรดำจะปิดระยะได้และใช้แรงชนกดคู่ต่อสู้เข้ากับเชือกเพื่อสาดศอกสั้น ไฟท์นี้จึงเป็นเรื่องของสมดุลระหว่างการบุกกดดันกับการรักษาความสะอาดของภาพรวมในสายตากรรมการอย่างแท้จริง

คู่ที่ 3 – พิกัด 123 ปอนด์: ปฏักชัย พชรยิมส์ (แดง) vs ประกายเพชร นายกต่อสวนแตง (น้ำเงิน)

เมื่อทั้งสองฝ่ายชั่งเท่าพิกัด เกมจึงต้องวัดกันที่รายละเอียดและความนิ่งเป็นหลัก ปฏักชัยควรยึดกลางเวทีด้วยแย็บและเตะยาวที่มีวินัย ไม่เปิดไหล่หลังคอมโบ ขณะที่ประกายเพชรต้องเน้นสวนคมทันทีเมื่อเห็นช่อง โดยเฉพาะจังหวะที่คู่ต่อสู้ยืดตัวหรือขยับผิดจังหวะ ครึ่งยกแรกมักใช้เพื่อวัดระยะและเลี้ยงความถี่ของการออกอาวุธให้พอดีก่อนจะเร่งคุณภาพช็อตในช่วงท้ายยก

ไฟท์เช่นนี้กรรมการมักให้คะแนนกับภาพรวมที่สะอาดและการคุมพื้นที่ที่ชัดเจน การวางตำแหน่งเท้าเพื่อหามุมบวกที่คู่ต่อสู้แตะตัวไม่ได้คือหัวใจสำคัญ หากใครสามารถทำให้คู่ต่อสู้เสียหลักเพียงครึ่งก้าวด้วยเตะตัดขาหรือหมัดตรงเข้าเป้าสวย ๆ แม้ครั้งไม่มากแต่คุณภาพชัดเจน คะแนนจะค่อย ๆ เทเข้าหาแบบต่อเนื่องจนจบไฟท์ได้

ข้อควรระวังคือการแลกยาวโดยไม่จำเป็น เพราะด้วยความเท่าพิกัดฝ่ายที่วางเกมรับแน่นและสวนคมจะได้เปรียบทันที ควรเล่นชัดเจน: เปิด–ปิดจังหวะสั้น ๆ แล้วรีเซ็ตตำแหน่ง การปิดยกด้วยช็อตเดียวที่คนดูและกรรมการ “เห็นและจำได้” จะเป็นตัวตัดสินที่แท้จริงของไฟท์นี้

คู่ที่ 4 – พิกัด 112 ปอนด์: เหนือปฐพี บูมเด็กเซียน (แดง) vs กิ่งไผ่ สวนไผ่ยายยิ้ม (น้ำเงิน)

ทั้งสองฝ่ายชั่งขาดพิกัดพอสมควร จึงคาดว่าเกมจะเน้นสปีดสูงและการฉีกมุมบ่อยครั้ง เหนือปฐพีควรใช้ความคล่องเปิดงานด้วยแย็บและเตะตัดล่างเพื่อทำให้คู่ต่อสู้เสียสมดุล ขณะที่กิ่งไผ่ต้องวางกับดักจังหวะสอง–สาม เน้นศอกสวนเมื่ออีกฝ่ายยืดตัวเกินพอดี การแลกสั้นคุณภาพโดยคืนการ์ดทันทีหลังคอมโบเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝั่งต้องรักษาอย่างเคร่งครัด

เมื่อความเร็วสูง ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะขยายผลอย่างรวดเร็ว หากใครปล่อยให้ตัวเองติดเชือกหรือถอยเป็นเส้นตรงต่อเนื่อง จะเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เก็บแต้มจากลูกเข่าตรงและหมัดตรงเข้าเป้าชัด การเปลี่ยนเลนหนึ่งสเต็ปและการหมุนตัวออกด้านข้างหลังคอมโบจะช่วยให้ภาพรวมสะอาดและลดโอกาสโดนสวนได้มาก

การปิดยกในไฟท์ประเภทนี้สำคัญยิ่ง ควรมองหา “ช็อตเดียวจบภาพ” เช่น เตะลำตัวเสียงดังหรือศอกเฉียงที่ทำให้อีกฝ่ายหยุดชั่วขณะ แม้จำนวนการออกอาวุธไม่มาก แต่คุณภาพของจังหวะที่เกิดผลจริงจะทำให้คะแนนขยับเข้าหาทันทีและส่งผลต่อความรู้สึกของกรรมการในยกถัดไปด้วย

ตารางมวยไทย พร้อมลิ้งก์ ดูมวยสดวันนี้ ทุกศึกทุกสังเวียนดวล ดูถ่ายทอดสดมวยวันนี้

คู่ที่ 5 – พิกัด 132 ปอนด์: อภิวัฒน์ ส.สมนึก (แดง) vs ดาว จิตรเมืองนนท์ (น้ำเงิน)

อภิวัฒน์ขาดถึง 1.2 ปอนด์ น่าจะได้เปรียบด้านความคล่องและการฉีกมุมที่พลิ้วกว่า จึงควรใช้แย็บและเตะตัดล่างตัดจังหวะ ก่อนจะเข้า–ออกสั้น ๆ เพื่อสาดหมัดตรงเข้าเป้าแล้วรีเซ็ตตำแหน่ง ขณะที่ดาวชั่งเท่าพิกัดและมีสมดุลด้านแรงชนที่ดี หากเดินค้ำอย่างมีวินัย ค่อย ๆ บีบให้แดงถอยเส้นตรงก็จะเปิดโอกาสใช้เข่าตรงและศอกสั้นสร้างผลจริงได้

หัวใจอยู่ที่การคุมพื้นที่กลางเวที ฝั่งแดงต้องไม่ยอมเสียวงให้โดนดันติดเชือก ส่วนฝั่งน้ำเงินต้องรักษาการ์ดและระยะให้พอดี ไม่ถ่างตัวมากจนโดนสวนหมัดตรง การเลือกจังหวะเร่งควรอยู่ช่วงกลางยกเมื่อคู่ต่อสู้เริ่มอ่านไม่ทัน และปิดยกด้วยช็อตเดียวที่กรรมการเห็นชัดเจน เช่น เตะลำตัวสะอาดหรือหมัดตรงจนอีกฝ่ายชะงัก

หากแดงลงทุนแลกยาวเกินไปโดยไม่รีเซ็ต ดาวจะฉวยจังหวะสวนและบี้ต่อเนื่องจนคะแนนไหลได้ ในทางกลับกัน หากน้ำเงินเร่งเพซจนการ์ดพร่อง อภิวัฒน์จะได้ช่องสวนคมและออกมุมปลอดภัย ไฟท์นี้จึงเป็นบททดสอบการตัดสินใจและการบริหารแรงปลาย ใครคุมคุณภาพช็อตได้สม่ำเสมอกว่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในสกอร์บอร์ด

คู่ที่ 6 – พิกัด 42 กิโลกรัม: ลูกแก้ว ศิษย์ครูก้อง (แดง) vs คมเพชร พีเอ็นพี.วันชัยมวยไทย (น้ำเงิน)

แม้เป็นพิกัดเยาวชนแต่จังหวะเกมมักรวดเร็วและมีการแลกสั้นต่อเนื่อง แดงลูกแก้วต้องระวังการยืดตัวหลังยิงหมัด เพราะน้ำเงินคมเพชรพร้อมสวนคมทันที การตั้งการ์ดให้เหนียวทุกครั้งหลังคอมโบและการขยับเท้าออกด้านข้างหนึ่งสเต็ปจะช่วยลดความเสี่ยงโดนสวนได้มาก ในขณะที่น้ำเงินควรอ่านจังหวะคู่ต่อสู้และไม่ไล่บ้าพลังจนหลุดตำแหน่ง

จุดตัดสินคือใครรักษาความสะอาดของภาพรวมได้ดีกว่า แม้แรงชนอาจไม่หนาแน่นเท่าพิกัดใหญ่ แต่การทำให้คู่ต่อสู้เสียหลักหรือหยุดชั่วขณะด้วยเตะตัดขาหรือหมัดตรงเข้าเป้าชัดเจนก็เพียงพอจะขยับคะแนนนำ การบริหารเพซควรสลับเร่ง–ผ่อนสั้น ๆ เพื่อคุมลมหายใจและเก็บคุณภาพช็อตให้เสมอต้นเสมอปลาย

ท้ายยกควรมองหาช็อตเดียวที่ทำให้กรรมการ “จำได้” เช่น ศอกเฉียงจังหวะสวนหรือเตะลำตัวเสียงดัง ภาพปิดยกที่คมจะชี้ทิศสกอร์และส่งแรงเหวี่ยงไปยังยกถัดไป ผู้ที่ไม่เร่งโดยไร้แบบแผนและรู้จักรีเซ็ตตำแหน่งบ่อย ๆ จะได้เปรียบในภาพรวมของไฟท์นี้

คู่ที่ 7 – พิกัด 34 กิโลกรัม: คะนองศึก ส.ศักดิ์ชัย (แดง) vs ฟ้าเพชร โตโยต้าระยอง (น้ำเงิน)

คู่นี้ความเร็วใกล้เคียงกันสูงมาก การตัดสินจึงไปอยู่ที่ความแม่นยำในการเข้าเป้าและการตอบสนองหลังโดนกดดัน คะนองศึกควรใช้แย็บและเตะยาวคุมจังหวะ ไม่ปล่อยให้ตัวเองถอยเส้นตรง ส่วนฟ้าเพชรควรเล่นเป็นชั้น ๆ ปรับเพซสั้น ๆ แล้วสวนคมในจังหวะที่คู่ต่อสู้ยืดตัว การไม่แลกยาวโดยไม่จำเป็นคือหลักวินัยสำคัญของไฟท์เยาวชนที่สปีดสูง

การวางเท้าเพื่อสร้างมุมโจมตีใหม่หลังคอมโบหนึ่งครั้งจะช่วยให้ภาพรวมดูสะอาดและลดโอกาสโดนสวนมาก การ์ดต้องคืนทันทีหลังทุกจังหวะ และควรมองหาเตะตัดล่างที่ทำให้เสียหลักสั้น ๆ เพื่อสะสมแต้ม เมื่อโอกาสเหมาะค่อยบวกชุด 2–3 อาวุธที่มีคุณภาพแล้วออกด้านข้างทันที

ช่วงท้ายยกไม่ควรปล่อยให้คู่ต่อสู้เป็นฝ่ายโชว์ภาพจำฝ่ายเดียว หากไม่เห็นช่องให้ทำช็อตคม ควรรีเซ็ตและคุมกลางเวทีเพื่อไม่เสียความรู้สึกของกรรมการ ไฟท์นี้ฝ่ายที่นิ่งกว่าและรักษาความแม่นได้ดีกว่าจะค่อย ๆ ได้เปรียบจนถึงตอนชูมือ

คู่ที่ 8 – พิกัด 40 กิโลกรัม: หนึ่งพิฆาต เพชรพร้อมรบ (แดง) vs งาทอง โตโยต้าระยอง (น้ำเงิน)

หนึ่งพิฆาตชั่งเท่าพิกัดจึงคาดหวังความนิ่งและการอ่านจังหวะที่ตรงเวลา ควรใช้แย็บและเตะยาวกั้นทางให้คู่ต่อสู้ที่ต้องลดน้ำไม่สามารถเร่งบุกแบบพรวดพราดได้ ส่วนงาทองเกินถึง 1.0 กิโลกรัม แม้ต้องลดแต่เมื่อรีไฮเดรตแล้วจะได้แรงชนและการยืนปะทะในวงในที่เด่นกว่า จึงควรเดินค้ำเป็นชั้น ปิดระยะด้วยความอดทนและอย่าเร่งแลกจนการ์ดพร่อง

ประเด็นสำคัญคือการจัดการช่วงเปลี่ยนระยะ หากแดงปล่อยให้ถูกดันจนถอยเส้นตรงและติดเชือก โอกาสเสียแต้มจะเพิ่มขึ้นทันที ในทางกลับกัน หากน้ำเงินพยายามบุกแบบยาวต่อเนื่องโดยไม่รีเซ็ตระยะ จะถูกสวนคมและเสียสมดุลเอง การจัดลำดับเร่ง–ผ่อนให้สัมพันธ์กับสภาพร่างกายในไฟท์นี้จึงสำคัญมาก

การปิดยกให้เด่นชัด เช่น เตะลำตัวเสียงดังหรือศอกสั้นในระยะประชิด จะทำให้ภาพคะแนนขยับทันที แม้ปริมาณอาวุธจะไม่มาก แต่ช็อตคุณภาพที่ทำให้อีกฝ่ายหยุดหรือถอยโดยไม่คืนงานจะส่งผลต่อความรู้สึกของกรรมการโดยตรง ไฟท์นี้ใครรักษาความนิ่งและคุมพื้นที่ได้ดีกว่าจะมีลุ้นชูมือมากกว่า

“`

ภาพรวมโฟลว์ของรายการและแนวโน้มคะแนน

เมื่อมองตั้งแต่คู่เปิดหัวไปจนถึงคู่ปิดรายการ จะเห็นเส้นเรื่องของความเร็วที่ค่อย ๆ ผสานเข้ากับแรงปะทะและความนิ่งของเกมรับ นักชกที่ขาดเล็กน้อยมักเก่งด้านฉีกมุมและเล่นจังหวะสอง ส่วนผู้ที่ลดน้ำจะโดดเด่นตอนปะทะใกล้และยืนแลกในวงในได้ทนกว่า อย่างไรก็ดี สกอร์สุดท้ายยึดหลักคุณภาพช็อต การคุมพื้นที่กลางเวที การรีเซ็ตตำแหน่งหลังคอมโบ และภาพปิดยกที่ชัดเจนเป็นสำคัญ ผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้สม่ำเสมอจะเก็บคะแนนยกต่อยกอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์ที่เหมาะกับค่ำคืนนี้คือการเลือกเสี่ยงอย่างมีเหตุผล วางกับดักจังหวะสวนในช่วงที่คู่ต่อสู้ยืดตัวหรือเปิดมุม และไม่หลงไหลกับการแลกยาวที่ไม่มีข้อได้เปรียบชัดเจน ใช้เตะยาวหยุดเกมเมื่อเริ่มเสียวง และหมุนออกข้างเพื่อรีเซ็ตการยืน หากทำได้ตามนี้ ภาพรวมจะสะอาดและโน้มน้าวสายตากรรมการได้ดีกว่า รวมถึงช่วยเซฟแรงปลายในยกท้าย ๆ อีกด้วย