โปรแกรมมวย 19 ตุลาคม 2568 ศึกมวยดีวิถีไทย ณ สนามมวยเยาวชนกองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ เวลา 12.30 น.

โปรแกรมมวย 19 ตุลาคม 2568 ศึกมวยดีวิถีไทย พรีวิวเชิงลึกก่อนชก คือสรุปใหญ่ที่รวมข้อมูลสำคัญของรายการช่วงเที่ยงบนสังเวียนธูปะเตมีย์ ทั้งรายชื่อนักสู้ พิกัด และผลการชั่งน้ำหนัก โดยบทความนี้วิเคราะห์เชิงแท็กติก จุดแข็ง จุดอ่อน และปัจจัยชี้ขาดของทุกคู่ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเกมล่วงหน้าอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น ช่วยตัดสินใจแนวเชียร์ได้แม่นยำมากขึ้น พร้อมย้ำโทนไฟต์ที่เน้นความคมของอาวุธและความนิ่งยกท้ายตามสไตล์มวยไทยพิกัดเล็กถึงกลาง

ศึกมวยดีวิถีไทย พรีวิวเชิงลึกก่อนชก

 

คู่ที่ 🔴 ฝ่ายแดง 🔵 ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้ (แดง) ขาด-เกิน (แดง) ชั่งได้ (น้ำเงิน) ขาด-เกิน (น้ำเงิน)
1 เสือเก้า อ.โชคชัย จอมยุทธ อ.จักรินทร์ 100 100 ตามพิกัด 100 ตามพิกัด
2 จาวาร์ด สิงห์บุรีไฟท์คลับ ทับหมิงคา ทายาทลูกงูเห่า 114 114 ตามพิกัด 114 ตามพิกัด
3 เมาคลีเล็ก เพชรสี่หมื่น เพชรสองภาค ป.ประวิทย์ 120 120 ตามพิกัด 120 ตามพิกัด
4 เดอะถัง โชคกิตติพัฒน์ฟาร์ม เพชรสามารถ เมืองผาภูมิ 120 120 ตามพิกัด 120 ตามพิกัด
5 เพรชสองยาง ศูนย์กีฬาห่อฝาย ดางเกยชัย ศิษย์แก้วประพล 114 114 ตามพิกัด 114 ตามพิกัด
6 กังวาลไพร ทรัพย์พูนทวี แทนคุณ แสงมรกต 104 104 ตามพิกัด 104 ตามพิกัด

ตารางมวยไทย พร้อมลิ้งก์ ดูมวยสดวันนี้ ทุกศึกทุกสังเวียนดวล ดูถ่ายทอดสดมวยวันนี้

โปรแกรมมวย 19 ตุลาคม 2568 ศึกมวยดีวิถีไทย” เหมาะกับสายวิเคราะห์

ศึกมวยดีวิถีไทย พรีวิวเชิงลึกก่อนชก การชั่งน้ำหนักตรงพิกัดเกือบทั้งรายการสะท้อนวินัยและความพร้อมทางกาย ส่งผลให้ความแตกต่างชี้กันที่แผนการชก การคุมจังหวะ และความนิ่งในยกสามถึงยกสี่เป็นหลัก พิกัด 100–120 ปอนด์ยังขึ้นชื่อเรื่องความคม–ความไว ทำให้แฟนมวยอ่านเกมได้สนุกและเห็นผลของแท็กติกชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการดักถีบ–แข้งสวน หรือการเดินบดบีบมุมเพื่อสะสมคะแนน

ไฮไลต์โปรแกรมมวย: พรีวิวเชิงลึกทุกคู่และซินโนนิมของ “ศึกมวยดีวิถีไทย”

ซับเฮดดิ้งนี้เพิ่มคำใกล้เคียงเพื่อหนุนการค้นหา โดยยังรักษาความเป็นธรรมชาติ เนื้อหาด้านล่างจะสรุปโทนไฟต์ จุดที่ต้องจับตา และแผนรับ–รุกของแต่ละฝ่ายอย่างกระชับ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ “จุดเปลี่ยนเกม” ที่มักเกิดขึ้นจริงในสังเวียน

คู่ที่ 1: เสือเก้า อ.โชคชัย (พิกัด 100 ชั่งได้ 100) vs จอมยุทธ อ.จักรินทร์ (พิกัด 100 ชั่งได้ 100)

ไฟต์เปิดหัวเน้นสปีดและการดักสวน เสือเก้าควรใช้แข้งขวาคุมพื้นที่พร้อมตัดล่างทำลายฐาน ส่วนจอมยุทธถนัดวางกับดักแล้วสวนหมัดสองช็อต หากเสือเก้าบุกแล้วโดนล็อกคอบ่อยจะเสียจังหวะง่าย แต่ถ้าอ่านคิวถอยของคู่ต่อสู้ขาดและบีบเข้ามุมได้สม่ำเสมอ โอกาสชนะคะแนนจะเปิดกว้างขึ้นมาก

คู่ที่ 2: จาวาร์ด สิงห์บุรีไฟท์คลับ (พิกัด 114 ชั่งได้ 114) vs ทับหมิงคา ทายาทลูกงูเห่า (พิกัด 114 ชั่งได้ 114)

เกมเดินบดปะทะฝีมือ จาวาร์ดคุมระยะด้วยแข้งซ้ายและเข่าตรง ขณะที่ทับหมิงคาจะเร่งเข้าใกล้เพื่อใช้ศอกสั้นในวงใน ใครล็อกได้แล้วบริหารระยะคลุกได้นานกว่าจะครองเกม คะแนนมีแนวโน้มสูสี จังหวะศอกที่เข้าเป้าชัดสามารถเปลี่ยนโมเมนตัม ได้ทันที

คู่ที่ 3: เมาคลีเล็ก เพชรสี่หมื่น (พิกัด 120 ชั่งได้ 120) vs เพชรสองภาค ป.ประวิทย์ (พิกัด 120 ชั่งได้ 120)

ไฟต์นี้วัดแรงปลายและ การคุมระยะ เมาคลีเล็กเดินบด ยัดเข่า ใช้การพิงเชือกบีบพื้นที่ ส่วนเพชรสองภาคเน้นถีบเปิดทาง–แข้งสวน–คอมโบครบชุด ถ้าปล่อยให้เมาคลีเล็กกดมุมได้ต่อเนื่องจะเสียภาพรวม แต่หากเพชรสองภาครักษาวงนอกและแต้มสะอาดต่อเนื่อง เกมจะไหลเข้าทางทันที

คู่ที่ 4: เดอะถัง โชคกิตติพัฒน์ฟาร์ม (พิกัด 120 ชั่งได้ 120) vs เพชรสามารถ เมืองผาภูมิ (พิกัด 120 ชั่งได้ 120)

เดอะถังอันตรายในวงใน มีศอกสั้นและยัดเข่าทำลายลำตัว ส่วนเพชรสามารถเป็นมวยฉลาด ถอยดักดีและแข้งซ้ายยาว การอ่านจังหวะแรกสำคัญมาก ถ้าเดอะถังทะลวงผ่านถีบแรกได้ เกมจะชกในแบบตนเอง แต่ถ้าเพชรสามารถตั้งกำแพงแข้งและ หมุนออกได้เนียน แต้มจะไปทางฝั่งฝีมือ

คู่ที่ 5: เพรชสองยาง ศูนย์กีฬาห่อฝาย (พิกัด 114 ชั่งได้ 114) vs ดางเกยชัย ศิษย์แก้วประพล (พิกัด 114 ชั่งได้ 114)

คู่นี้ชี้กันที่ ความสม่ำเสมอของงานแข้ง เพรชสองยางขยัน ออกต่อเนื่องและไม่ยืนแลกนาน ขณะที่ดางเกยชัยคมสวน ถ้าเจอจังหวะหมัด ศอกกลับแบบสะอาดจะได้แต้มเด่นทันที การป้องกันแล้วตอบโต้แบบเร็วและชัดคือหัวใจของไฟต์

คู่ที่ 6: กังวาลไพร ทรัพย์พูนทวี (พิกัด 104 ชั่งได้ 104) vs แทนคุณ แสงมรกต (พิกัด 104   เดิมระบุ “ชั่งได้ 1104” คาดคลาดเคลื่อน)

พิกัดเล็กที่ ความเร็วสูงและการ์ดกลับตัวคือจุดวัดผล กังวาลไพรเล่นจังหวะสอง ทำลายจังหวะคู่ต่อสู้ด้วยการฉีกมุมและตัดล่าง ส่วนแทนคุณมือไว ถ้าจับไลน์หมัดได้ก่อนคะแนนจะนำเร็ว อย่างไรก็ตามหากกังวาลไพรลากเข้ารูปประหยัดแรงและบีบพื้นที่ ยกท้ายมีโอกาสพลิกแต้มได้เสมอ

เคล็ดลับดูให้สนุกขึ้น

กำหนด “ภาพจำ” ของแต่ละคู่ไว้ก่อนระฆัง เช่น คู่ 1 เน้นดักสวน ตัดล่าง, คู่ 2 วงใน ศอกสั้น, คู่ 3 วัดแรงปลาย คุมวงนอก, คู่ 4 ศึกฝีมือชนบู๊ในจังหวะแรก, คู่ 5 แข้งถี่ปะทะคมสวน, คู่ 6 ความเร็วมือและการ์ดกลับตัว เมื่อรู้โครงเกม จะมองเห็นจุดเปลี่ยนได้ไวขึ้นและสนุกกับการลุ้นคะแนนแบบมีเหตุมีผล