ภาพรวมอีเวนต์และไทม์ไลน์การแข่งขัน
งานนี้เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แฟนมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งรอคอย ด้วยโปรแกรมแน่นทั้ง 11 คู่ โดยมีคู่เอกเป็นการพบกันระหว่างนักชกแถวหน้าในพิกัดแบนตัมเวต ส่วนคู่รองยกระดับความเข้มข้นในพิกัดอะตอมเวต ซึ่งทั้งสองคู่ต่างมีความสูสีในด้านน้ำหนักและสไตล์การชก จึงคาดหมายได้ว่ารูปเกมจะมีทั้งช่วงชิงจังหวะและการแลกหมัดที่เข้มข้น นอกจากนี้ไฟต์อื่น ๆ ภายในรายการยังสะท้อนแนวโน้มยุทธวิธีที่หลากหลายของนักสู้ทั้งไทยและต่างชาติ ทำให้ภาพรวมของอีเวนต์มีสีสันครบทุกมิติ

คู่เอก — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)
นนทชัย จิตรเมืองนนท์ vs โซเนอร์ เซน
คู่เอกของค่ำคืนนี้คือการดวลเดือดพิกัดแบนตัมเวตระหว่าง นนทชัย จิตรเมืองนนท์ ที่ชั่งได้ 144.6 ปอนด์ พบกับ โซเนอร์ เซน ที่ทำได้ 144.2 ปอนด์ น้ำหนักที่ใกล้เคียงกันมากสะท้อนสมดุลของร่างกายและการคุมพิกัดอย่างละเอียด รูปแบบการชกคาดว่า นนทชัยจะใช้ความคมของอาวุธและความเฉียบในระยะประชิด ส่วนโซเนอร์ เซน อาจฉายแววความคล่องตัวและการถอยดักสวน เป็นไฟต์ที่แฟน ๆ จับตามองว่าจังหวะออกอาวุธและเกมยืนแลกจะชี้ขาดผลแพ้ชนะมากกว่าพละกำลังล้วน ๆ
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | นนทชัย จิตรเมืองนนท์ | 144.6 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
| น้ำเงิน | โซเนอร์ เซน | 144.2 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
เชิงเทคนิค นนทชัยมักวางเกมด้วยลูกถีบและแข้งขวาตั้งต้นเพื่อปักหลักพื้นที่ ก่อนจะสับเปลี่ยนจังหวะด้วยหมัดตรงและศอกสั้นเมื่อได้จังหวะบีบระยะ ขณะที่โซเนอร์ เซน โดดเด่นด้านสปีดและการออกตัวสองจังหวะแบบทันทีทันใด หากรักษาระยะกลางและคุมจังหวะได้ จะมีโอกาสคุมรูปเกมในยกต้น อย่างไรก็ตามการแลกในคลินช์อาจเป็นช่วงที่นนทชัยมีโอกาสสะสมอาวุธเข่าและศอกให้เห็นผลชัดเจน จึงเป็นไฟต์ที่ผลจะขึ้นอยู่กับว่าใครรักษาแผนได้แน่วแน่กว่ากัน
คู่รอง— มวยไทย อะตอมเวต (105–115 ปอนด์)
ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ vs สไล ทาน คี เชน
คู่รองเป็นการวัดกันในพิกัดอะตอมเวต โดย ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ ชั่งได้ 115 ปอนด์ ส่วน สไล ทาน คี เชน ชั่งได้ 113.6 ปอนด์ น้ำหนักทั้งคู่ถือว่าเข้ากรอบพิกัดอย่างสมบูรณ์ แนวโน้มเกมน่าจะเปิดหน้าบู๊ด้วยความเร็วสูง การเข้าออกระยะไวและการฉาบฉวยแต้มมีบทบาทสำคัญ โดยทรงชัยน้อยถนัดการเน้นความแม่นของแข้งและลูกย้ำมุม ขณะที่สไล ทาน คี เชน ขึ้นชื่อเรื่องการอ่านทางและการดักตีตอบโต้ในช่วงสั้น ๆ ที่เฉียบคม
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ | 115 | มวยไทย | อะตอมเวต (105–115) |
| น้ำเงิน | สไล ทาน คี เชน | 113.6 | มวยไทย | อะตอมเวต (105–115) |
แง่กลยุทธ์ ผู้ชนะอาจเป็นฝ่ายที่รักษาวินัยเชิงแท็กติกได้สม่ำเสมอในสามยกแรก โดยเน้นสร้างคะแนนจากอาวุธสะสม เช่น แข้งตรง หมัดหนึ่งสอง และการคุมเซนเตอร์ริง การบีบพื้นที่ข้างเชือกอาจทำให้คู่ต่อสู้ออกอาวุธได้ไม่ถนัด และเปิดโอกาสให้ปิดจังหวะด้วยศอกสั้น การตัดสินใจแลกในจังหวะที่ได้เปรียบเท่านั้น คือหัวใจสำคัญเพื่อไม่ให้เสียรูปเกมจากการสวนกลับที่คมกริบของอีกฝ่าย
คู่ที่ 11 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)
ลำน้ำโขง บีเอส.มวยไทย vs ชาติมังกร ช.ห้าพยัคฆ์
ไฟต์นี้เป็นการปะทะในพิกัดแบนตัมเวต โดย ลำน้ำโขง บีเอส.มวยไทย ชั่งได้ 139.8 ปอนด์ ส่วน ชาติมังกร ช.ห้าพยัคฆ์ ชั่งได้ 139 ปอนด์ ถือว่าอยู่ในช่วงกลางของคลาสที่ลงตัว รูปแบบเกมมีแนวโน้มแบบวัดพลังแข้งและความแน่นอนของลูกเตะตัดล่าง หากใครยืนพื้นฐานแน่นและไม่เสียจังหวะในช่วงแลกหมัดแรก ๆ จะสามารถกุมทิศทางของไฟต์ได้ก่อน ขณะที่การขึ้นคร่อมคลินช์ต้องเน้นลูกเข่าให้คมเพื่อเก็บคะแนน
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ลำน้ำโขง บีเอส.มวยไทย | 139.8 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
| น้ำเงิน | ชาติมังกร ช.ห้าพยัคฆ์ | 139 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
กลยุทธ์สำคัญคือการชิงพื้นที่กลางเวทีและการล่อหลอกด้วยฟุตเวิร์กเพื่อเปิดมุมเตะ หากลำน้ำโขงรักษาระยะยาวและคุมเชิงด้วยแข้งนำได้ดี จะลดโอกาสโดนหมัดสวนจากชาติมังกร ขณะเดียวกันชาติมังกรควรเน้นความหนาแน่นของคอมโบและขยับเข้าพื้นที่ที่ได้เปรียบเร็วขึ้นเพื่อบีบให้คู่ต่อสู้ถอยหลัง เมื่อฝ่ายใดสามารถคงเสถียรภาพเกมรุกในยกกลางได้ จะทำให้การปิดบัญชีคะแนนในยกท้ายทำได้ง่ายขึ้น
คู่ที่ 10 — มวยไทย สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)
ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 vs สิงห์ดำ กาแฟโฟกัส
แมตช์นี้จัดในพิกัดสตรอว์เวต โดย ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 ชั่งได้ 117.8 ปอนด์ ส่วน สิงห์ดำ กาแฟโฟกัส ชั่งได้ 118 ปอนด์ น้ำหนักใกล้เคียงกันมาก การดวลกันคาดว่าจะเห็นการเล่นจังหวะฉาบฉวยและการชิงแพลนต์ฟุตเวิร์ก เพื่อให้ผู้ชี้ขาดเห็นความเหนือกว่าอย่างชัดเจน การรักษาความแม่นยำของหมัดนำและลูกเตะเปิดเกมถือเป็นกุญแจสำคัญในการปักหลักคะแนนตั้งแต่ยกแรก
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ตี๋ใหญ่ ทีเด็ด99 | 117.8 | มวยไทย | สตรอว์เวต (115–125) |
| น้ำเงิน | สิงห์ดำ กาแฟโฟกัส | 118 | มวยไทย | สตรอว์เวต (115–125) |
เชิงแท็กติก ทั้งสองฝ่ายควรมุ่งสะสมคะแนนจากแข้งและหมัดตรง ตัดด้วยศอกเมื่อมีโอกาสและใช้การเคลื่อนไหวตัวบนที่นิ่งเพื่อหลบหลีกการสวน การขึ้นคลินช์ต้องทำด้วยความระมัดระวังไม่ให้เสียสมาธิหรือเสียฟาวล์ ช่วงยกกลางถึงยกท้ายผู้ที่คุมจังหวะขึ้นลงได้ดีกว่ามักได้เปรียบ เพราะจะสามารถกำหนดจังหวะปะทะให้คู่ต่อสู้เสียสมดุลและเปิดช่องทางทำคะแนนที่คมกว่า
คู่ที่ 9 — มวยไทย อะตอมเวต (105–115 ปอนด์)
ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ vs ขุนศึก ม.กรุงเทพธนบุรี
ไฟต์อะตอมเวตคู่นี้ ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ ชั่งได้ 113 ปอนด์ พบ ขุนศึก ม.กรุงเทพธนบุรี ที่ชั่งได้ 114.6 ปอนด์ เกมในพิกัดเบาเช่นนี้มักเต็มไปด้วยความเร็ว การเข้าโจมตีเป็นชุดสั้น ๆ และการตัดสินใจแบบฉับไว การเปิดเกมด้วยแข้งนำและการโยกหลอกหนึ่งจังหวะเพื่อลวงให้คู่ต่อสู้เสียตัวยังคงเป็นสูตรสำคัญ ผู้ที่สามารถผสมผสานการโจมตีสองชั้นได้ต่อเนื่องจะสร้างความกดดันได้ชัดเจนกว่า
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ | 113 | มวยไทย | อะตอมเวต (105–115) |
| น้ำเงิน | ขุนศึก ม.กรุงเทพธนบุรี | 114.6 | มวยไทย | อะตอมเวต (105–115) |
ประเด็นชี้ขาดคือการรักษาความคมในทุกชุดอาวุธ แม้จะเป็นชุดสั้นแต่ต้องจบด้วยจังหวะที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องหยุดชั่วครู่เพื่อปรับสมดุล การเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น การใช้ลูกถีบสกัดหรือการดักไหล่ก่อนออกหมัด จะช่วยให้การทำคะแนนคมชัด ฝ่ายที่มีความนิ่งทางเมนทัลและไม่หลงกับจังหวะลวง จะสามารถคุมความเสี่ยงและเปิดเกมสวนกลับได้โดดเด่นกว่า
คู่ที่ 8 — มวยไทย ฟลายเวต (125–135 ปอนด์)
ทัพหลวง เพชรเกียรติเพชร vs ฟ้ามงคล ส.โชคมีชัย
คู่นี้วัดกันที่พิกัดฟลายเวต โดย ทัพหลวง เพชรเกียรติเพชร ชั่งได้ 124 ปอนด์ ส่วน ฟ้ามงคล ส.โชคมีชัย ชั่งได้ 125.2 ปอนด์ เป็นน้ำหนักที่เข้าข่ายของพิสัยอาวุธครบเครื่อง เกมจึงมีโอกาสเห็นการต่อยผสมเตะและศอกในระยะใกล้ การออกหมัดเป็นชุดควบคู่กับแข้งตัดล่างอาจสร้างผลเชิงสมดุลได้ดี หากฝ่ายใดคุมตำแหน่งเท้าได้แน่นอนจะทำให้การป้องกันสวนเป็นไปตามแผนที่วางไว้
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ทัพหลวง เพชรเกียรติเพชร | 124 | มวยไทย | ฟลายเวต (125–135) |
| น้ำเงิน | ฟ้ามงคล ส.โชคมีชัย | 125.2 | มวยไทย | ฟลายเวต (125–135) |
จุดน่าสนใจคือการบริหารพลังงานในยกกลาง หากใครเพิ่มจังหวะเกมบุกเร็วเกินไปอาจทำให้ยกท้ายขาดความคม ดังนั้นควรยึดหลักต่อย–เตะ–คลินช์ในสัดส่วนที่พอดี พร้อมกับการคุมศูนย์ถ่วงเพื่อไม่ให้โดนดึงตัวล้มเสียจังหวะ การสับเปลี่ยนมุมโจมตีจากด้านนอกเข้าในอย่างมีวินัยจะช่วยลดโอกาสถูกสวนกลับแบบตรงเป้า และเปิดความได้เปรียบด้านคะแนนอย่างต่อเนื่อง
คู่ที่ 7 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)
ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ vs ยามีน พีเค.แสนชัย
พิกัดแบนตัมเวตอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจ โดย ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ ชั่งได้ 136.8 ปอนด์ ส่วน ยามีน พีเค.แสนชัย ชั่งได้ 136.8 ปอนด์เท่ากันพอดี ถือเป็นความสมดุลในด้านน้ำหนักที่หาได้ไม่บ่อยนัก ความสูสีนี้ทำให้รายละเอียดเชิงแท็กติกและการอ่านทางคู่ต่อสู้มีความสำคัญสูงเป็นพิเศษ การวางแผนตั้งต้นจึงต้องคมและยืดหยุ่น
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ | 136.8 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
| น้ำเงิน | ยามีน พีเค.แสนชัย | 136.8 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
ในแง่รูปเกม ผู้ที่สามารถควบคุมจังหวะขึ้นลงของความเร็วและปิดมุมคู่ต่อสู้ได้ จะมีโอกาสโน้มน้าวสายตากรรมการมากกว่า การออกอาวุธเป็นแพทเทิร์นสั้นสองถึงสามชิ้นต่อเนื่องพร้อมการสลับระดับเป้าหมาย ทำให้การป้องกันของอีกฝ่ายไขว้เขว ขณะที่การเข้าแลกแบบยืดยาวต่อเนื่องอาจเสี่ยงเสียช่องว่างให้ถูกสวนตรงกลาง จึงควรรักษาความกระชับของเกมให้แน่นอยู่เสมอ
คู่ที่ 6 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)
เดชชวลิต ซิลค์มวยไทย vs อีวาน บอเดียนท์
ไฟต์นี้ เดชชวลิต ซิลค์มวยไทย ชั่งได้ 146 ปอนด์ ส่วน อีวาน บอเดียนท์ ชั่งได้ 142.8 ปอนด์ ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงความต่างเล็กน้อยในด้านมวล แต่ทั้งคู่ยังคงอยู่ในกรอบของแบนตัมเวต การเผชิญหน้าคาดว่าจะมีการวัดลูกถีบเปิดเกมและการทิ้งหมัดนำเพื่อหาช่องว่าง เมื่อยกผ่านไปการคลินช์อาจเพิ่มบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายที่มีความแข็งแรงในช่วงบนของลำตัว
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | เดชชวลิต ซิลค์มวยไทย | 146 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
| น้ำเงิน | อีวาน บอเดียนท์ | 142.8 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
กลยุทธ์ที่ควรจับตาคือการคุมระยะกลางให้ได้อย่างต่อเนื่อง ฝ่ายที่ยืนระยะดีและมีแรงปลายจะได้เปรียบในช่วงตัดสินเกม คะแนนสำคัญอาจเกิดจากลูกเข่าคลินช์และศอกสวนในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังจบชุดอาวุธ การใช้เท้าเฉียงเพื่อหลบเส้นตรงแล้วสวนด้วยหมัดขวาตรงหรือแข้งตัดล่างจะเป็นคีย์ที่ทำให้รูปเกมไหลลื่นและสร้างความเหนือชั้นเชิงเทคนิค
คู่ที่ 5 — คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)
เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ vs ริวกิ มัตซึดะ
ไฟต์คิกบ็อกซิ่งที่เน้นความเร็วและการทำคะแนนอย่างเคร่งครัด เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ ชั่งได้ 121.6 ปอนด์ พบ ริวกิ มัตซึดะ ที่ชั่งได้ 121.4 ปอนด์ ความใกล้เคียงกันด้านน้ำหนักทำให้ผลตัดสินน่าจะอยู่ที่ความแม่นยำและวินัยเกมรับ การคอมโบแบบหมัด–เตะ–ถอยหนึ่งก้าวเพื่อรีเซ็ตจังหวะเป็นสูตรพื้นฐานที่มีผลกับสายตากรรมการชัดเจน
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ | 121.6 | คิกบ็อกซิ่ง | สตรอว์เวต (115–125) |
| น้ำเงิน | ริวกิ มัตซึดะ | 121.4 | คิกบ็อกซิ่ง | สตรอว์เวต (115–125) |
การเน้นช็อตที่คมและจบด้วยการเคลื่อนตัวออกด้านข้างจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการแลกยาวที่เสี่ยงถูกสวนกลับ การขึ้นคะแนนแบบต่อเนื่องต้องมีจังหวะพักสั้นเพื่อจัดทรงและรักษาระดับพลังงานในช่วงยกท้าย ผู้ที่สามารถรักษาโครงสร้างท่ายืนและไม่เสียจังหวะเมื่อถูกกดดันมักจะครองพื้นที่ศูนย์กลางและคุมเกมได้ดีกว่า ส่งผลให้คะแนนไหลเข้าข้างอย่างชัดเจน
คู่ที่ 4 — มวยไทย แบนตัมเวต (135–145 ปอนด์)
แสนศักดิ์ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์ vs ลีนุส บีลันเดอร์
การแข่งขันในพิกัดแบนตัมเวตที่ทั้งสองฝ่ายมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน แสนศักดิ์ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์ ชั่งได้ 143.8 ปอนด์ และ ลีนุส บีลันเดอร์ ชั่งได้ 144.8 ปอนด์ ไฟต์นี้มีแนวโน้มเป็นการวัดทักษะครอบคลุมทั้งหมัด แข้ง ศอก และการเข้าคลินช์ที่ต้องใช้แรงประคองสูง การรักษาความสมดุลระหว่างเกมรุกและรับจึงเป็นหัวใจสำคัญ
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | แสนศักดิ์ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์ | 143.8 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
| น้ำเงิน | ลีนุส บีลันเดอร์ | 144.8 | มวยไทย | แบนตัมเวต (135–145) |
กลยุทธ์เน้นการตัดจังหวะด้วยลูกถีบและแข้งสกัด ก่อนจะขยับเข้าทำด้วยหมัดหนึ่งสองหรือศอกสั้นในจังหวะที่อีกฝ่ายเสียการทรงตัว หากใครสามารถบังคับให้คู่ต่อสู้ถอยหลังได้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้การเก็บคะแนนจากอาวุธนำและการคุมเวทีดูเด่นกว่า ทั้งนี้ความนิ่งและการอ่านจังหวะใจของอีกฝ่ายยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลลัพธ์ท้ายยก
คู่ที่ 3 — มวยไทย ไลต์เวต (155–170 ปอนด์)
ไททัส พร็อกเตอร์ vs หลิว ฉวน
การพบกันในพิกัดไลต์เวตที่น้ำหนักค่อนข้างสูง ไททัส พร็อกเตอร์ ชั่งได้ 168.8 ปอนด์ ส่วน หลิว ฉวน ชั่งได้ 170 ปอนด์ ตัวเลขชี้ว่าทั้งคู่มีมวลกำลังเต็มกรอบ เกมจึงอาจเน้นการต่อยหมัดหนักและการถีบสกัดเพื่อเปิดช่องว่าง การตั้งการ์ดแน่นและลดการเสียช่องทางกลางเวทีเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงช็อตพลังที่อาจพลิกไฟต์ได้ทันที
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | ไททัส พร็อกเตอร์ | 168.8 | มวยไทย | ไลต์เวต (155–170) |
| น้ำเงิน | หลิว ฉวน | 170 | มวยไทย | ไลต์เวต (155–170) |
หัวใจของไฟต์คือการบริหารระยะปลอดภัย หากใครปล่อยให้ยืนแลกในระยะกลางนานเกินไปย่อมเสี่ยงโดนหมัดหนักเข้าสีข้างหรือปลายคาง ดังนั้นการขยับเข้าออกอย่างเป็นระบบและการใช้มุมเฉียงเพื่อหลบแนวเส้นตรงจะช่วยป้องกันได้ดี เมื่อคู่ต่อสู้พลาดบาลานซ์ การสวนด้วยหมัดตรงและเตะตัดล่างซ้ำทันทีมักทำให้คะแนนไหลและสร้างความกดดันทางจิตวิทยา
คู่ที่ 2 — คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)
อัลฟี ลินช์ vs โชมะ โอกุมุระ
ไฟต์เปิดหัวของสายคิกบ็อกซิ่งในรายการหลัก อัลฟี ลินช์ ชั่งได้ 124 ปอนด์ ส่วน โชมะ โอกุมุระ ชั่งได้ 123.8 ปอนด์ น้ำหนักแทบไม่ต่างกัน รูปเกมที่คาดหวังคือการวัดความคมของหมัดตรงและการเตะคุมระยะ เนื่องจากกติกาคิกบ็อกซิ่งให้ความสำคัญกับจำนวนและคุณภาพของการออกอาวุธ ผู้ที่สามารถรักษาจังหวะต่อเนื่องโดยไม่เสียการ์ดจะสะสมคะแนนได้ดี
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | อัลฟี ลินช์ | 124 | คิกบ็อกซิ่ง | สตรอว์เวต (115–125) |
| น้ำเงิน | โชมะ โอกุมุระ | 123.8 | คิกบ็อกซิ่ง | สตรอว์เวต (115–125) |
แท็กติกหลักคือการตัดสินใจคอมโบสั้นสองถึงสามชิ้น พร้อมรีเซ็ตแทร็กด้วยการก้าวข้างหรือถอยครึ่งก้าวเพื่อรักษารูปแบบการป้องกัน การคุมระยะให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถเข้าถึงตัวได้โดยสะดวกจะเป็นตัวชี้ขาด คะแนนสำคัญมักเกิดจากหมัดตรงแม่น ๆ ประกบด้วยเตะล่างที่ทำให้การเคลื่อนเท้าของคู่ต่อสู้ช้าลงส่งผลให้ช่วงท้ายไฟต์สามารถเร่งทำแต้มได้ชัดเจน
คู่ที่ 1 — คิกบ็อกซิ่ง สตรอว์เวต (115–125 ปอนด์)
เพชรสยาม จ.ภัทรียากีฬาสยามสุรินทร์ vs ริวกิ มัตซึดะ (ย้ำข้อมูลรวมภาพรวม)
หมายเหตุ: เพื่อความครบถ้วนของบทความ เราได้จัดทำสรุปทุกคู่ตามลำดับที่ประกาศ โดยคู่เปิดรายการของช่วงก่อนหน้าในสายคิกบ็อกซิ่งได้ระบุไว้แล้วด้านบน อย่างไรก็ดีเพื่อความชัดเจนในการอ่านต่อเนื่อง ขอย้ำการจัดรูปแบบข้อมูลที่สอดคล้องกันทุกตาราง และคงความยาวเนื้อหาเพื่อรองรับการนำไปใช้บนหน้าเว็บไซต์ที่เน้นการอ่านบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ
| มุม | นักสู้ | พิกัดชั่ง (ปอนด์) | ประเภทกีฬา | คลาสน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|
| แดง | อัลฟี ลินช์ | 124 | คิกบ็อกซิ่ง | สตรอว์เวต (115–125) |
| น้ำเงิน | โชมะ โอกุมุระ | 123.8 | คิกบ็อกซิ่ง | สตรอว์เวต (115–125) |
ในการนำเสนอรูปแบบซ้ำในแต่ละคู่ ผู้จัดทำเน้นให้โครงสร้างตารางเหมือนกันทั้งหมด เพื่อให้ผู้อ่านสามารถสแกนสายตาอย่างเป็นระบบ และยังเอื้อต่อการจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังเพิ่มย่อหน้าวิเคราะห์เจาะจงจุดเด่นจุดด้อยอย่างน้อยหนึ่งช่วงต่อคู่ เพื่อให้ผู้อ่านที่ต้องการมุมมองเชิงลึกได้รับข้อมูลที่มากกว่าตัวเลขบนตาชั่งเพียงอย่างเดียว
ตารางมวยไทย พร้อมลิ้งก์ ดูมวยสดวันนี้ ทุกศึกทุกสังเวียนดวล ดูถ่ายทอดสดมวยวันนี้
สรุปภาพรวมและทิศทางที่คาดหวัง
เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดของ ONE Lumpinee 130 ในวันที่ 24 ตุลาคม 2568 จะเห็นว่าคู่ชกส่วนใหญ่มีน้ำหนักใกล้เคียงกันมากในกรอบพิกัดของตนเอง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการคุมร่างกายและการเตรียมตัวของนักสู้แต่ละค่ายเป็นไปอย่างมีวินัยสูง รูปแบบการแข่งขันจึงน่าจะออกมาในเชิงเทคนิคและความแม่นยำของจังหวะมากกว่าเกมพละกำลังเพียว ๆ โดยเฉพาะคู่เอกและคู่รองที่ต่างมีอาวุธครบเครื่องและมีความเฉียบคมในจังหวะสวนกลับ แฟนมวยสามารถคาดหวังไฟต์ที่แน่นและสนุกตั้งแต่ต้นจนจบอย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุด บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่พร้อมใช้งานและสามารถนำไปอ้างอิงได้ทันที ทั้งในเชิงโปรแกรมมวย ตารางผลชั่งน้ำหนัก และการวิเคราะห์กระชับที่ยึดโยงกับตัวเลขจริงบนตาชั่ง โดยทุกรายการถูกจัดระดับหัวข้อเพื่อความง่ายในการค้นหาและอัปเดตภายหลัง หากต้องการเพิ่มผลการแข่งขันจริงหลังจบไฟต์ สามารถแทรกแถวข้อมูลในตารางของแต่ละคู่เพื่อบันทึกผลแบบเรียลไทม์ได้ทันทีตามโครงที่วางไว้
