“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ฟิตเต็มร้อย คัมแบ็กบู๊ “คานะ โมริโมโตะ” ในศึก ONE 173 โตเกียว

“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต 3 กติกา กลับมาพร้อมข่าวดีสำหรับแฟน ๆ หลังใช้เวลาฟื้นฟูสภาพร่างกายยาวนานกว่าสองปี เธอประกาศสภาพความฟิตสมบูรณ์พร้อมคืนสังเวียนด้วยกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต โดยมีเป้าหมายแรกคือการดวลฝีมือกับ “คานะ โมริโมโตะ” นักสู้จอมแกร่งจากญี่ปุ่น ในรายการใหญ่ระดับพรีเมียม ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ซึ่งจะระเบิดศึกวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ณ อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มชกตั้งแต่เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเจ้าถิ่น

การคัมแบ็กครั้งนี้มีความหมายพิเศษสำหรับ “แสตมป์” เพราะไฟต์ล่าสุดของเธอต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ในศึก ONE Fight Night 14 ที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มดุดันในกติกา MMA เอาชนะทีเคโอ “ฮาม ซอ ฮี” นักสู้ชื่อดังจากเกาหลีใต้ในยกที่ 3 ทว่าหลังจากนั้นเธอกลับเผชิญข่าวร้ายจากการฝึกซ้อม เมื่อรองกระดูกเข่าซ้ายเกิดการฉีกขาดจนต้องพักรักษาตัวยาว ส่งผลให้พลาดการป้องกันเข็มขัดถึงสองครั้ง และท้ายที่สุดจึงตัดสินใจสละบัลลังก์ ONE MMA รุ่นอะตอมเวตเพื่อให้เวลากับร่างกายอย่างเต็มที่

ตลอดช่วงพักยาว “แสตมป์” ไม่ได้หายไปจากแวดวงสู้ทน เธอทุ่มเทสร้างฐานที่มั่นและระบบการฝึกซ้อมใหม่ โดยเปิดค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ที่เมืองพัทยาให้เป็นทั้งบ้านและสนามฝึกซ้อม พร้อมเปิดต้อนรับสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมเช็กฟิตโชว์ความพร้อมล่าสุดแบบเต็มสายตา ในบรรยากาศที่สะท้อนความมุ่งมั่นของอดีตแชมป์ผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคทางกายภาพและเวลาที่ผ่านเลย

แสตมป์ยืนยันด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่าผลตรวจจากทีมแพทย์ยืนยันสภาพร่างกาย

“สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์” แต่ก็ไม่ลืมย้ำความจริงของเกมต่อสู้ ว่าเมื่อก้าวขึ้นสู่เวทีจริง ความดุดันของเกมหมัด-แข้งและแรงปะทะคือบทพิสูจน์ขั้นสุดท้าย เธอยอมรับว่าการร้างสังเวียนกว่าสองปีมีผลต่อร่างกายและจังหวะคุมเกมไม่น้อย รวมถึงปัจจัยเรื่องอายุที่ก้าวสู่ 28 ปี ซึ่งบังคับให้เธอต้องฝึกซ้อมอย่างมีระบบและฉลาดขึ้นกว่าที่เคย

เพื่อให้พร้อมชนศึกระดับท็อป “แสตมป์” เล่าว่าช่วงเก็บตัวสามเดือนที่ผ่านมาเป็นการ “รื้อระบบใหม่ทั้งหมด” โดยอาศัยทีมวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยออกแบบแผนการซ้อมอย่างสมดุล เน้นการเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ การระเบิดพลังในจังหวะสั้น ๆ และการฟื้นตัวระหว่างช่วงพัก เพื่อลดความเสี่ยงอาการเดิมกำเริบและยกระดับประสิทธิภาพให้กลับมาใกล้เคียงช่วงพีกที่สุดของอาชีพ

คู่ชิงในไฟต์คัมแบ็กอย่าง “คานะ โมริโมโตะ” ไม่ใช่งานง่าย เธอคือนักสู้แถวหน้าของแดนปลาดิบ เจ้าของเกียรติยศ K-1 ทัวร์นาเมนต์ แชมเปียนชิพ รุ่นฟลายเวตหญิง เป็นมวยสไตล์บุกดุดัน อาวุธหมัดคมและทรงพลัง พร้อมความเร็วปลายที่รักษามาตรฐานได้ทั้งยก แสตมป์ยอมรับว่า “คานะ” มีจุดเด่นครบเครื่องทั้งสปีดและแรงปะทะ ทำให้ต้องเตรียมแท็กติกอย่างละเอียด โดยเฉพาะการอ่านจังหวะเข้า-ออกและการป้องกันตอบโต้แบบไม่เปิดพื้นที่ให้ถูกไล่เพรส

แท็กติกหลักที่ค่ายแฟร์เท็กซ์วางไว้คือ “แข้งสกัดหมัด” เพื่อทำลายจังหวะบุกของคานะ แสตมป์จะเน้นเล็งเป้าไปที่แขนรับหมัดและน่อง เพื่อบั่นทอนแรงและลดการถ่ายน้ำหนักในช่วงยืนแลก พร้อมเสริมวินัยเกมรับต่อ “ลูกเตะน่อง” ซึ่งฝ่ายตรงข้ามถนัด การวางหมากเช่นนี้สะท้อนความตั้งใจของอดีตแชมป์ที่อยากควบคุมริธึ่มเกมตั้งแต่ต้น และบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องออกจากโครงสร้างถนัดของตนเอง

การประเมินเทปไฟต์ของ “คานะ” ล่าสุดในเกมพบ “เพชรจีจ้า”

ทำให้ทีมแสตมป์ยิ่งตระหนักถึงความทรหดของคู่ชกชาวญี่ปุ่น เธอรับมืออาวุธหนักได้ดีและมีวินัยเกมป้องกันรัดกุม ความเร็วไม่ตกแม้เข้าสู่ช่วงยกท้าย ๆ นั่นหมายความว่าแสตมป์จะไม่สามารถหวังปิดบัญชีด้วยจังหวะเดียว หากต้องสร้างคะแนนด้วยความแม่นยำ เน้นคอมบิเนชันที่ “เข้า-ออก” สั้นและเก็บรายละเอียดยิบย่อยเพื่อชิงความได้เปรียบของดวงตากรรมการ

อีกประเด็นที่แสตมป์ไม่มองข้ามคือรายละเอียดนอกเวที “นี่เป็นครั้งแรกที่หนูจะขึ้นชกที่ญี่ปุ่น” เธอเล่าอย่างตรงไปตรงมาว่าปัจจัยสภาพอากาศหนาวและเรื่องอาหารการกินสามารถกระทบการลดน้ำหนักได้ แต่ก็เตรียมการล่วงหน้ามาอย่างดี ด้วยการคุมโภชนาการต่อเนื่องและสร้างนิสัยการดื่มน้ำ-พักผ่อนให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนชั่งน้ำหนักเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ไม่เปิดช่องให้ร่างกายเกิดความผันผวนกะทันหัน

แม้ย้ำว่า “มั่นใจทุกไฟต์” แต่แสตมป์ก็ซื่อตรงกับความจริงของการชกอาชีพ ผลงานจริงบนเวทีย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเสี้ยววินาที เธอส่งสารถึง “คานะ” อย่างสง่างามว่า “ขอให้ซ้อมมาเต็มที่ เพราะหนูก็ซ้อมมาเต็มที่เหมือนกัน ถ้าเขา 100 เปอร์เซ็นต์ หนูจะไปสู้แบบ 200 เปอร์เซ็นต์” นี่คือมุมคิดของยอดนักสู้ที่ยึดถือความเคารพคู่แข่งและแฟนมวยเป็นหัวใจ ขณะเดียวกันก็ยืนยันบุคลิก “ใจถึง พึ่งได้” ในทุกจังหวะการขับเคี่ยว

ในภาพรวมของอาวุธคิกบ็อกซิ่ง จุดแข็งของแสตมป์ยังคงเป็นความครบเครื่องจากประสบการณ์ 3 กติกา ทั้งมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง และ MMA เธออ่านเกมใกล้ชิด ระยะถนัดของแข้งหน้าหนาและลูกเตะตัดล่างออกเร็ว อีกทั้งการยืนมวยที่มีวินัยช่วยให้การยกการ์ดและการเปลี่ยนมุมยิงหมัด-ศอก (แม้ศอกไม่ใช่อาวุธหลักในคิกบ็อกซิ่ง) ทำให้การหลอกจังหวะยังคงคม ความท้าทายสำคัญคือการเคาะสนิมจังหวะจริง ซึ่งต้องอาศัยยกแรก ๆ เป็นบททดลองวัดน้ำหนักคู่แข่ง ก่อนกดคันเร่งในช่วงกลางและท้ายไฟต์อย่างมีระบบ

ด้านสภาพจิตใจ “แสตมป์” ดูสงบและชัดเจนกว่าเดิม โดยให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างเร่ง-ผ่อน จากเดิมที่เน้นซ้อมหนักอย่างเดียวจนเสี่ยงบาดเจ็บ มาเป็นการบริหารโหลดการซ้อมแบบ periodization รวมทั้งฝึกหายใจ ฟื้นตัวด้วยการยืดเหยียด น้ำแข็ง และการนอนคุณภาพ เธอตั้งใจลดสิ่งรบกวน และมองทุกวันเป็นโอกาสซ้อมให้แน่นขึ้นนิดเดียว แต่ยืนระยะได้ยาวกว่าที่เคย นี่คือแผนที่ทำให้ร่างกายรับแรงปะทะของเกมจริงได้ โดยไม่ย้อนกลับไปเผชิญความเจ็บเดิมอีก

ท้ายที่สุดไม่ว่าไฟต์นี้จะจบลงด้วยผลอย่างไร สิ่งที่ชัดเจนคือแสตมป์ได้ผ่านบทเรียนสำคัญของนักกีฬาอาชีพยุคใหม่ นั่นคือการจัดการร่างกายเชิงวิทยาศาสตร์ การฟื้นตัวอย่างมีแบบแผน และการรู้จัก “ถอยเพื่อตั้งหลัก” เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เธอกลับมาพร้อมร่างกายที่แพทย์คอนเฟิร์มและแท็กติกที่ทีมสตาฟฟ์ขัดเกลาแล้วอย่างประณีต เหลือเพียงการพิสูจน์บนสังเวียนจริงที่กรุงโตเกียว ซึ่งทุกวินาทีจะเป็นบทตัดสินว่าคัมแบ็กครั้งนี้จะส่งเธอคืนสู่เส้นทางไล่ล่าความสำเร็จได้ไกลแค่ไหน

สำหรับแฟน ๆ ชาวไทย การได้เห็น “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ในนามตัวแทนจากค่ายแฟร์เท็กซ์อีกครั้ง คือความภูมิใจของวงการมวยบ้านเรา เธอเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามและการไม่ยอมแพ้ ที่เดินทางจากเวทีเล็กสู่แชมเปียนบนเวทีโลก จนวันนี้พร้อมกลับมาท้าทายตัวเองอีกระลอกกับคู่ชกที่แข็งแกร่งอย่าง “คานะ โมริโมโตะ” หากอาวุธ “แข้งสกัดหมัด” ทำงานได้จริงและร่างกายยืนระยะได้ตลอดยก เกมนี้มีโอกาสสูงที่เสียงเฮของแฟนไทยจะดังสนั่นไปไกลถึงอาริอาเกะ อารีนา

แล้ววันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เราจะได้รู้คำตอบเดียวกันบนสังเวียนคิกบ็อกซิ่งรุ่นอะตอมเวต ว่า “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” จะปักหมุดคัมแบ็กตามแผน หรือ “คานะ โมริโมโตะ” จะย้ำแกร่งกลางถิ่น พร้อมปูเส้นทางตัวเองสู่เป้าหมายใหม่ในเวทีโลก ไม่ว่าบทสรุปจะหันไปทางใด ค่ำคืนนี้ถูกขีดเส้นใต้ไว้แล้วว่า “ห้ามพลาด” สำหรับคอมวยทุกคนที่เฝ้ารอการกลับมาของอดีตแชมป์ผู้หลอมรวมวินัย ความแกร่ง และเสน่ห์บนเวทีในคนเดียวอย่างแท้จริง

และหากทุกอย่างเป็นใจ การเปิดศักราชใหม่ของแสตมป์อาจต่อยอดสู่ไฟต์มวยไทยที่เธอถวิลหา โดยมีชื่อ “เวโร” รออยู่ในลิสต์ในฝัน นี่คือคำประกาศที่ไม่เพียงเพิ่มไฟความหวังของแฟน ๆ แต่ยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักสู้สาวรักษามาตรฐานการซ้อมอย่างเข้มข้นต่อไปอีกขั้น จนกว่าประตูบานต่อไปจะเปิดให้เธอก้าวเข้าไปล่าความสำเร็จบทใหม่ด้วยความเชื่อมั่นแบบ “200 เปอร์เซ็นต์” ที่เธอย้ำชัดในทุกถ้อยคำและทุกหมัด-แข้งบนเวทีใหญ่ครั้งนี้

ตารางมวยไทย พร้อมลิ้งก์ ดูมวยสดวันนี้ ทุกศึกทุกสังเวียนดวล ดูถ่ายทอดสดมวยวันนี้